หลุยส์ ซัวเรส สุดยอดดาวยิงจากอุรุกวัย
หลุยส์ ซัวเรส สุดยอดดาวยิงจากอุรุกวัย :: เกิด 24 มกราคม ค.ศ. 1987 ณ เมืองซัลโต ประเทศอุรุกวัย
ในปี ค.ศ. 2005 ซัวเรซ ได้เซ็นสัญญาเป็นนักฟุตบอลอาชีพกับสโมสรนาซิโอนัลในกรุงมอนเตวิเดโอ สโมสรที่ซัวเรซเล่นมาตั้งแต่ระดับเยาวชน
เมื่ออายุถึง 19 ปี เขาจึงย้ายสโมสรเป็นครั้งแรกไปสู่สโมสรฟุตบอลโครนิงเงิน ประเทศเนเธอร์แลนด์ ในปี 2006
เขาย้ายทีมอีกครั้งในปี 2007 ไปยังสโมสรชื่อดัง อายักซ์ อัมสเตอร์ดัม ในฤดูกาล 2008-09 ได้รับรางวัลผู้เล่นแห่งปีของสโมสร และทำประตูเป็นดาวซัลโวของสโมสร ในฤดูกาลนี้ เขายังได้เป็นกัปตันของอายักซ์ อัมสเตอร์ดัม ยิง 35 ประตู จาก 33 นัด ในลีก
จากผลงานสุดร้อนแรง ทำให้ได้รับรางวัลผู้เล่นแห่งปีของลีกเนเธอร์แลนด์ ยิงรวมทุกถ้วย 49 ประตู อีกทั้งในฤดูกาล 2010-11 เขายิงให้อายักซ์ อัมสเตอร์ดัม ครบ 100 ลูก นั้นคือผลงานเทียบชั้นตำนานของสโมสร อาทิ โยฮัน ไกรฟฟ์, มาร์โก ฟัน บัสเติน และเดนนิส เบิร์กแคมป์
จากผลงานสุดร้อนแรง ทำให้ลิเวอร์พูลยื่นข้อเข้ามา และได้ตัวเขาไปร่วมทีมในช่วงตลาดซื้อขายเดือนมกราคา ด้วยค่าตัว 26.6 ล้านปอนด์การมาของซัวเรซ ลิเวอร์พูลขยับจากอันดับที่ 12 ของตาราง ณ กลางเดือนมกราคม 2011 ไปจบที่อันดับ 6 เมื่อสิ้นสุดฤดูกาลโดยเป็นผู้เล่นที่เป็นกุญแจสำคัญของลิเวอร์พูล
แต่ทว่าเกิดเหตุการณ์อื้อฉาวคือ ซัวเรซ ไปกัดที่แขนของ บรานิสลาฟ อีวานอวิช เอฟเอ สอบสวนก่อนจะสั่งลงโทษแบนยาวถึง 10 นัด ทำให้ ซัวเรซ หมดสิทธิ์ลงสนามใน 4 นัดที่เหลือ รวมถึงไม่สามารถลงสนาม 6 นัดแรกในฤดูกาลหน้าได้
แต่ทว่าจบฤดูกาล ซัวเรซ ยิงประตูในพรีเมียร์ลีกได้ 23 ประตู จาก 33 นัด รวมทุกรายการ ยิงได้ทั้งหมด 30 ประตู จาก 44 นัด ทำให้ ซัวเรซ เป็นนักเตะคนที่ 12 ของ ลิเวอร์พูล ที่ยิงประตูครบ 30 ประตู รวมทุกรายการ ในฤดูกาลเดียว
และในฤดูกาลต่อมา เขาก็พาลิเวอร์พูลคว้าแชมป์ลีกคัพ สมัยที่ 8 ไปครอง ในเดือนเมษายน 2014 เขาก็ได้รับรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมนักฟุตบอลอาชีพอังกฤษ ประจำฤดูกาล 2013-14 ด้วยผลงาน 31ประตู จาก 33 นัด
ในปี 2014-2015 ซัวเรสย้ายออกจากลิเวอร์พูล ไปร่วมทีม บาร์เซโลน่าในวันที่ 11 กรกฎาคม ค.ศ. 2014 สัญญา 5 ปี ด้วยค่าตัว 75 ล้านปอนด์
การเข้ามาของเขาทำให้บาร์เซโลน่าคว้าแชมป์มากมาย และก่อให้เกิดสามประสาน MSN ที่ว่ากันว่าคือสามประสานที่ร้ายกาจที่สุดในวงการฟุตบอล ประกอบไปด้วย เมสซี่ และ เนย์มาร์
เพียงฤดูกาลแรกที่เข้ามา MSN ประกาศศักดาพาทีมคว้าทริปเปิลแชมป์ได้สำเร็จ จบฤดูกาล 3 ประสาน MSN ยิงประตูรวมทั้งหมด 122 ประตู
ฤดูกาล 2015-2016 MSN ยังพาทีมคว้าแชมป์ลาลีกามาครองได้อีกครั้ง โดยจบฤดูกาล ซัวเรซ ยิงประตูในลาลิกาได้ 40 ประตู ทำให้ ซัวเรซ กลายเป็นนักเตะคนแรกในรอบ 7 ปีที่เบียดเอาชนะ คริสเตียโน โรนัลโด และ เลียวเนล เมสซี คว้ารางวัล “ปิชีชี่” หรือดาวซัลโวสูงสุดของลีกสเปนไปครอง
ทีมซัวเรซทำประตูที่ 29 ในลาลิกา บาร์เซโลนา เอาชนะ เออิบาร์ 4-2 แต่สุดท้าย เรอัลมาดริด เอาชนะ มาลากา 2-0 ทำให้ บาร์เซโลนาพลาดโอกาสคว้าแชมป์ลาลิกา อย่างน่าเสียดาย
ผลงานของซัวเรส ตลอดเวลากับบารเซโลน่า
ฤดูกาล 2014-15
ลงสนาม 43 นัด, ยิง 25 ประตู, แอสซิสต์ 23 ครั้ง
ฤดูกาล 2015-16
ลงสนาม 53 นัด, ยิง 59 ประตู, แอสซิสต์ 24 ครั้ง
ฤดูกาล 2016-17
ลงสนาม 51 นัด, ยิง 37 ประตู, แอสซิสต์ 18 ครั้ง
ฤดูกาล 2017-18
ลงสนาม 51 นัด, ยิง 31 ประตู, แอสซิสต์ 19 ครั้ง
ฤดูกาล 2018-19
ลงสนาม 49 นัด, ยิง 25 ประตู, แอสซิสต์ 13 ครั้ง
ฤดูกาล 2019-20
ลงสนาม 36 นัด, ยิง 21 ประตู, แอสซิสต์ 12 ครั้ง
ภายหลังการเข้ามาของโรนัลด์ คูมัน มองว่าซัวเรสเป็นส่วนเกิน ทำให้วันที่ 24 ก.ย. 63 บาร์เซโลนา แถลงผ่านเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของสโมสรว่าได้บรรลุข้อตกลงกับ แอตเลติโก มาดริด ทีมร่วมศึกลา ลีกา สเปน ว่า หลุยส์ ซัวเรซ เตรียมย้ายไปเป็นสมาชิกใหม่ของทัพ “ตราหมี”
ปัจจุบัน ซัวเรสกลายเป็นตัวแปรสำคัญให้แอตมาดริด นำเป็นจ่าฝูงอยู่ในขณะนี้